แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 14
1
มือถือ Xiaomi เสียวหมี่ Xiaomi 14 (12GB/512GB)
29,990 บาท 

เสียวหมี่ Xiaomi 14 (12GB/512GB)
Xiaomi 14 อัปเกรดขึ้นแบบก้าวกระโดด ขนาดหน้าจอกำลังดีที่ 6.36 นิ้ว ในดีไซน์ขอบจอบางพิเศษ เลนส์ออปติคอล Summilux จาก Leica มีรูรับแสงขนาดใหญ่ ภาพถ่ายจึงดูใสขึ้น สว่างขึ้น และชัดยิ่งขึ้น เซ็นเซอร์ Light Fusion 900 ที่ปรับมาอย่างดีเพื่อให้ช่วงไดนามิกสูง 13.5EV แพลตฟอร์มมือถือ Snapdragon® 8 Gen 3 มาพร้อมประสิทธิภาพด้านพลังงานระดับแนวหน้า

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น        เสียวหมี่ Xiaomi 14 (12GB/512GB)
   ราคากลาง      29,990 บาท
   จำนวนซิม      2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์      จอสัมผัส
   สี                White, Black, Green(Jade Green)
   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM: B2/3/5/8)
3G(UMTS: B1/2/4/5/6/8/19)
4G(LTE TDD: B38/39/40/41/42/48 LTE FDD: B1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/25/26/28/32/66)
5G(n1/2/3/5/7/8/20/25/28/38/40/41/48/66/75/77/78)

   ขนาด-น้ำหนัก                     ยาว 152.8 x กว้าง 71.5 x หนา 8.2 มม., น้ำหนัก 193 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)     512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุง        -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ         ความจุแบตเตอรี่ 4,610 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ              จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด       6.36 นิ้ว, 460 ppi, 1,200 x 2,670 px
   รายละเอียดอื่น
LTPO, AdaptiveSync Pro
อัตรารีเฟรช: ไดนามิกตั้งแต่ 1-120Hz
ความไวตอบสนองการสัมผัส: สูงสุด 240Hz
*ความไวตอบสนองการสัมผัสอาจแตกต่างกันออกไปตามเนื้อหาบนหน้าจอ
ประเภทวัสดุ OLED: แผงจอ C8 ที่ปรับโดย Xiaomi
ความสว่าง: HBM 1000 nits (typ), ความสว่างสูงสุด 3000 nits
จอแสดงผล HDR ระดับโปร
Dolby Vision®
HDR10+
6.8 หมื่นล้านสี
ช่วงสี: DCI-P3
หน้าจอ TrueColor
สีสันที่ปรับอัตโนมัติ
สีดั้งเดิม PRO
โหมดอ่านหนังสือ
การหรี่ไฟ DC
ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)
ได้รับการรับรองความไร้ซึ่งแสงกะพริบจาก TÜV Rheinland
ได้รับการรับรอง Circadian Friendly จาก TÜV Rheinland

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                 กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                              -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)            Snapdragon 8 Gen 3
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Qualcomm Adreno GPU
   หน่วยความจำ (RAM)              12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก               USB(Type-C), Bluetooth, NFC, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                     -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต           3G, WiFi, 4G, 5G

2
เด็กที่เข้ารับการจัดฟันเด็ก ควรรับประทานอาหารแบบใด

สุขภาพช่องปากและฟัน สำหรับเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถ้าเด็กเกิดฟันผุ หรือปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก อาจจะทำให้เด้กรับประทานอาหารได้ลำบากมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากปัญหาฟันบางอย่าง อาจจะส่งผลต่อการรับประทานอาหารอาหาร และการที่เด็กไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ละเอียด แน่นอนว่าจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของเด็กอย่างแน่นอน และยังทำให้เด็กมีอาการเบื่ออาหาร จนทำให้เด็กไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างเพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆได้ ดังนั้น การดูแลเรื่องของฟันในเด็ก จึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะเอาใจใส่ดูแล

เพราะเด็ก เป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงต้องการอาหารที่ให้สารอาหารและพลังงานสูง  เมื่อเด็กอายุครบ 5 ขวบก็สามารถให้เด็กรับประทานอาหารทั่วไป แต่ห้ามเติมเกลือในอาหารเด็ก สิ่งสำคัญคือเด็กต้องได้รับโปรตีนและแคลเซียมที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ นมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นแหล่งอาหารที่ดีที่ให้ทั้งโปรตีนและแคลเซียมที่จำเป็น ซึ่งสามารถให้พลังงานเพียงพอกับความต้องการของร่างกายได้

ซึ่งนอกจากการดูแลเรื่องของโภชนาการของเด็กแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองควรใส่ใจในเรื่องของการรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กด้วย เพราะอาหารที่เด็กรับประทานเข้าไป ก็มีส่วนช่วยในด้านสุขภาพช่องปากและฟันเช่นเดียวกัน ยิ่งในเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็กนั้น การรับประทานอาหารยิ่งมีความสำคัญ เพราะเด็กจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และไม่ส่งผลต่อการจัดฟันด้วย สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพุดถึงเรื่องของการรับประทานอาหารของเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน

สำหรับอาหารกับคนที่จัดฟัน โดยหลักทั่วไปแล้ว การรับประทานอาหารสำหรับคนจัดฟัน ผู้เข้ารับการจัดฟัน ควรที่จะรับประทานอาหารที่มีความอ่อน ซึ่งทันตแพทย์หลายท่านอาจจะแนะนำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน เลือกรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดี โดยไม่ต้องออกแรงในการเคี้ยวมาก เพ่อที่จะได้ระมัดระวังในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟันที่อยู่ภายในช่องปากด้วย

ดังนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันทุกคนจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม จะต้องงดการรับประทานอาหารที่เหนียวและแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องมือการจัดฟันหลุดขณะรับประทานอาหาร หรือหากรับประทานอาหารที่มีความแข็งมากๆ จะอาจจะทำให้เครื่องมือการจัดฟันได้รับความกระทบกระเทือน

เพราะผู้ที่เข้ารับการจัดฟันส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องดังกล่าว สังเกตได้จากผู้ที่เข้ารับการจัดฟันหลายคน ส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือรับประทานลูกอม น้ำแข็ง เพื่อเซฟในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน

ซึ่งถ้าหากเครื่องมือการจัดฟันเกิดความเสียหาย หรือเครื่องมือชิ้นใดชิ้นหนึ่งหลุดหายไปขณะรับประทานอาหาร ก็จะส่งผลต่อการรักษาโดยตรง ดังนั้น ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันควรที่จะรับประทานอาหารที่มีความอ่อนนุ่ม เช่น ข้าวต้ม หรือผลไม้ที่ไม่แข็ง แต่อีกแง่มุมหนึ่งผู้เข้ารับการจัดฟันก็สามารถเลือกรับประทานอาหารได้หลากหลาย

เพียงแต่ว่าต้องเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปับยหาขณะการจัดฟัน เช่นเดียวกับกับการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินเพื่อให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และส่งผลดีต่อการจัดฟัน

เพราะฉะนั้น การดูแลเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน ในเรื่องของโภชนาการจึงมีความสำคัญ และยังช่วยให้เป็นการปลูกฝังในเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารของเด็กได้อีกด้วย เด็กจะไม่มีพฤติกรรมการรับประทานจุกจิก และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น จนติดเป็นนิสัย นอกจากจะช่วยให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันในเด็กแล้ว ยังช่วยให้เด็กมีสุขภาพร่างกานที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและได้รับสารอาหารที่มีแต่ประโยชน์ด้วย

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และยังมีระสบการณ์ด้านทันตกรรมเด็กมาอย่างยาวนาน พร้อมที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษาสำหรับเด้กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเราอยากเด็กมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

3
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: Febrile Convulsion

Febrile Convulsion หรือ Febrile Seizures เป็นอาการชักจากการมีไข้สูงในเด็ก ซึ่งมักมีสาเหตุจากการติดเชื้อ โดยมักเกิดขึ้นกับทารกอายุประมาณ 6 เดือนไปจนถึงเด็กอายุ 3 ปี แม้ว่าภาวะชักจากไข้สูงในเด็กนี้อาจดูรุนแรง แต่อาการดังกล่าวมักไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ และไม่ได้เป็นสัญญาณของการเจ็บป่วยที่ร้ายแรงในภายหลัง


อาการของ Febrile Convulsion

อาการของ Febrile Convulsion จะแตกต่างกันไปตามประเภทของการชัก โดยสามารถแบ่งภาวะชักจากไข้ออกได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

ภาวะชักจากไข้แบบธรรมดา เป็นภาวะที่พบได้บ่อย โดยอาการชักมักจะเป็นแบบเกร็งกระตุกทั่วทั้งตัว เกิดขึ้นประมาณ 1-2 นาที และอาจเกิดอย่างต่อเนื่องนานถึง 15 นาที แต่จะไม่มีอาการชักเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ อาจมีอาการต่าง ๆ ต่อไปนี้เกิดขึ้นร่วมด้วย

    ตาเหลือก
    ร้องคราง
    ไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า
    อุจจาระหรือปัสสาวะราดขณะที่กำลังชัก
    เลือดไหลออกจากปาก เนื่องจากกัดปากหรือลิ้นในขณะที่กำลังชัก

ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจมีอาการง่วงนอน หงุดหงิด ฉุนเฉียว หรือโมโหง่ายเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงหลังอาการชักสิ้นสุดลงแล้ว 

ภาวะชักจากไข้แบบซับซ้อน เป็นการชักที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนานกว่า 15 นาที โดยผู้ป่วยอาจมีอาการชักซ้ำภายใน 24 ชั่วโมงหลังการชักครั้งแรก หรือขณะที่เกิดอาการชักก็อาจมีอวัยวะเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้นที่กระตุก และเมื่ออาการชักสิ้นสุดลงแล้ว ผู้ป่วยอาจมีอาการแขนหรือขาอ่อนแรงตามมา ซึ่งภาวะชักจากไข้แบบซับซ้อนเป็นอาการที่พบได้น้อย และผู้ป่วยมักต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล


สาเหตุของ Febrile Convulsion

อุณหภูมิร่างกายที่สูงกว่าปกติเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการชักจากไข้ได้ แต่ถึงแม้อุณหูมิร่างกายจะสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยก็อาจกระตุ้นให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน

โดยสาเหตุต่อไปนี้มักทำให้เกิดอาการไข้จนอาจนำไปสู่ภาวะชักได้

    การติดเชื้อ ภาวะไข้ที่ทำให้เกิดอาการชักส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยมักเป็นเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่และโรคไข้ผื่นกุหลาบ เนื่องจากผู้ป่วยมักมีไข้สูงจนเป็นเหตุให้เกิดอาการชักได้ แต่อาการชักจากภาวะไข้ก็อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นกัน แม้จะพบได้ไม่บ่อยนักก็ตาม   
    การฉีดวัคซีน หลังจากได้รับการฉีควัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค เช่น วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ โรคบาดทะยัก โรคไอกรน และวัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน เป็นต้น ผู้ป่วยอาจมีไข้แล้วทำให้เกิดอาการชักได้

นอกจากสาเหตุข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการชักจากไข้ได้ ดังนี้

    อายุ อาการชักจากไข้มักเกิดขึ้นในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี โดยช่วงวัยที่มีความเสี่ยงสูงอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 12-18 เดือน
    ประวัติครอบครัว ผู้ป่วยที่มีบุคคลในครอบครัวมีประวัติเกิดอาการชักขณะเป็นไข้นั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการชักจากไข้มากกว่าคนทั่วไป และนักวิจัยยังค้นพบยีนส์ที่เกี่ยวข้องกับภาวะชักจากไข้อีกด้วย จึงคาดว่าพันธุกรรมอาจมีส่วนในการเกิดภาวะนี้


การวินิจฉัย Febrile Convulsion

สำหรับการวินิจฉัยภาวะ Febrile Convulsion แพทย์จะซักถามอาการอย่างละเอียด ตรวจประวัติทางการแพทย์ รวมทั้งประวัติพัฒนาการเด็กด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าอาการชักที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากโรคอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เกิดอาการชักได้เหมือนกัน หากยังไม่สามารถหาสาเหตุในเบื้องต้นได้ แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด หรือตรวจปัสสาวะ เป็นต้น

นอกจากนี้ หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับผู้ป่วย หรือมีภาวะชักจากไข้แบบซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กอายุต่ำกว่า 12 เดือน แพทย์อาจพิจารณาให้มีการทดสอบอื่น ๆ เพิ่มเติม ดังนี้

    การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) เป็นการตรวจการทำงานของสมองผ่านขั้วไฟฟ้าที่ติดอยู่กับหนังศีรษะ โดยการทำงานที่ผิดปกติของสมองอาจช่วยวินิจฉัยอาการชักจากไข้ได้
    การเจาะน้ำไขสันหลัง ในกรณีที่สงสัยว่าผู้ป่วยมีการติดเชื้อในสมองหรือระบบประสาท แพทย์อาจเก็บตัวอย่างของน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังไปส่งตรวจ
    การสแกนเอ็มอาร์ไอ (MRI Scan) แพทย์อาจสั่งตรวจสมองของผู้ป่วยด้วยการทำเอ็มอาร์ไอสแกน หากผู้ป่วยมีศีรษะที่ใหญ่ผิดปกติ มีความผิดปกติทางระบบประสาท มีความดันในกะโหลกศีรษะสูง และมีอาการชักจากไข้ที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานผิดปกติ


การรักษา Febrile Convulsion

โดยส่วนใหญ่แล้วอาการชักจากไข้จะหายไปเองภายในไม่กี่นาที โดยผู้ปกครองของเด็กควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ในขณะที่ผู้ป่วยเกิดอาการชัก

    ค่อย ๆ พลิกตัวเด็กให้นอนตะแคงข้างในบริเวณที่ปลอดภัย
    ห้ามนำสิ่งของใด ๆ เข้าปากเด็ก
    จับเวลาในขณะที่เกิดอาการชัก
    สังเกตอาการและอยู่กับเด็กอย่างใกล้ชิด
    เก็บวัตถุที่แข็งและแหลมคมให้ห่างไกลจากตัวเด็ก
    ปลดเครื่องประดับและเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก
    อย่าพยายามจับหรือมัดตัวเพื่อหยุดอาการชัก

ทั้งนี้ หากเด็กมีอาการชักนานต่อเนื่องกว่า 5 นาที หรือมีภาวะชักจากไข้แบบซับซ้อน ควรรีบพาเด็กไปโรงพยาบาลทันที โดยแพทย์อาจให้ยานอนหลับไดอะซีแพมในรูปแบบยาเหน็บทางทวารหนักแก่ผู้ป่วย


ภาวะแทรกซ้อนของ Febrile Convulsion

โดยปกติแล้ว Febrile Convulsion มักไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่สร้างความเสียหายแก่สมอง อีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดความบกพร่องทางสติปัญญาและความบกพร่องในการเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในขณะที่เกิดอาการชัก เพราะอาจเกิดการสำลักจากอาหารหรือน้ำลายภายในช่องปากได้ และอาจเกิดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้ด้วยเช่นกัน   

นอกจากนี้ ภาวะชักจากไข้เป็นอาการชักที่มีปัจจัยชักนำ จึงไม่ถือว่าเป็นสัญญาณของโรคลมชัก เนื่องจากโรคลมชักเกิดจากความผิดปกติของสัญญาณไฟฟ้าในสมอง และสามารถเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีปัจจัยชักนำให้เกิดอาการ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับภาวะ Febrile Convulsion


การป้องกัน Febrile Convulsion

อาการชักจากไข้แต่ละประเภทมีวิธีป้องกันแตกต่างกันไป ซึ่งภาวะชักจากไข้แบบธรรมดามักไม่สามารถป้องกันได้ เนื่องจากเป็นการชักเพียงครั้งเดียว และมักไม่ส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านชักเพื่อควบคุมอาการชัก แต่อาจต้องใช้ยาต้านชักเพื่อป้องกันอาการในผู้ป่วยที่มีภาวะชักจากไข้แบบซับซ้อนหรือผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองอาจช่วยลดไข้เด็กเพื่อป้องกันการเกิด Febrile Convulsion ได้ด้วยการปลดเสื้อผ้าออกให้เหลือเพียงแค่ชั้นเดียว เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวขึ้น และระมัดระวังไม่ให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องที่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป

4
motor expo 2024 Toyota เริ่มผลิตแบตเตอรี่ Solid-State ภายใน 2026 แน่นอน รับรองโดยรัฐบาลญี่ปุ่น

Toyota คาดว่าเป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์รายแรก ๆ ที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ solid-state โดยค่ายสามห่วงได้กล่าวถึงแผนรถไฟฟ้าพร้อมแบตฯ โซลิดสเตทมาหลายปี แต่คราวนี้แผนดังกล่าวเริ่มใกล้ความจริงแล้ว เพราะกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ของญี่ปุ่น ได้ตรวจสอบแผนการนี้แล้ว โดยรถที่มีแบตเตอรี่โซลิดสเตทของโตโยต้าจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการภายในปี 2026
 
 
ช่วงแรกจะผลิตน้อย และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
 
สำหรับการผลิตรถที่มีแบตเตอรี่โซลิตสเตทในช่วงแรกจะมีจำนวนค่อนข้างจำกัด แต่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนถึงปี 2027 และ 2028 แม้อาจจะมีเหตุการณ์ที่ต้องเลื่อนการผลิตบ้าง อย่างไรก็ตาม Toyota Times ระบุว่า แผนการผลิตเต็มกำลังจะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป
 
ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุดโดย Toyota ระบุว่า การผลิตแบตเตอรี่โซลิดสเตทจะ “เริ่มตั้งแต่ปี 2026” และจะ “ค่อย ๆ ดำเนินการเพิ่ม (การผลิต) ขึ้นเรื่อย ๆ” นอกจากแบตเตอรี่โซลิดสเตทแล้ว Toyota ยังผลิตแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเจเนอเรชั่นถัดไป (ผลิตโดยบริษัท third party ของโตโยต้าทั้งหมด 2 ใน 3 บริษัท) ควบคู่กันไปด้วย เพิ่อให้ได้เป้าหมายการผลิตที่ 9 กิกะวัตต์-ชั่วโมง

 
แผนการที่ Toyota ประกาศ คือการผลิตแบตเตอรี่ Solid-State และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีข้อสังเกตว่า “เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้อุปกรณ์จำนวนมากซึ่งต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่ในโรงงานที่สำคัญ”
 
“เพื่อรักษาและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและเทคโนโลยีภายในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมอุปกรณ์และผู้ผลิตวัสดุ โดยเป็นสิ่งที่รัฐบาล (ญี่ปุ่น) ให้การสนับสนุน”
 
แบตเตอรี่ Solid-State จาก Toyota จะวิ่งได้ไกลถึง 1,200 กม./ชาร์จ
 
แบตเตอรี่ Solid-State ใหม่จาก Toyota ให้สัญญาว่าจะสามารถชาร์จได้เร็วขึ้น (0-100% ภายใน 10 นาที) และให้ระยะทางขับขี่ไกลสุด 1,000 กม./ชาร์จ (WLTP) ในช่วงแรก และจะอัพเกรดเป็น 1,200 กม./ชาร์จ ในภายหลัง
 
ก่อนหน้านี้ Toyota ประกาศว่าจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่โซลิดสเตทในปี 2020 แต่สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้น โดยค่ายสามห่วงให้เหตุผลว่ากำลังรอการพัฒนาให้การผลิตเป็นไปได้ในโลกความเป็นจริง
 
หลังจากนั้นในเดือนมิถุนายน 2023 Toyota ประกาศว่าได้พัฒนาแบตเตอรี่ให้วิ่งไกลขึ้นอีก 20% ในทางทฤษฎี จนทำให้ถึง 1,200 กม./ชาร์จ ได้แล้ว
 
รถคันแรกที่ใช้ Solid-State จาก Toyota จะเป็นรถไฮบริด?
 
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า รถ Toyota รุ่นแรกที่ใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตทจะเป็นรถไฮบริด ไม่ใช่รถไฟฟ้า 100% แต่อย่างใด ซึ่งค่อนข้างสมเหตุสมผล เพราะในช่วงแรก ต้นทุนของแบตเตอรี่ solid-state จะยังสูง อาจส่งผลให้ราคาของรถสูงเกินไป หากนำมาใช้กับรถไฮบริดซึ่งใช้แบตฯ เล็กกว่า ก่อน จะไม่ส่งผลต่อราคารถมากนัก
 

ค่ายอื่นก็พัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State เหมือนกัน
 
Toyota ไม่ได้เป็นค่ายรถเจ้าเดียวที่จะใช้แบตเตอรี่ Solid-State ในรถเท่านั้น ค่ายยักษ์ใหญ่จากจีน SAIC ซึ่งเป็นเจ้าของ MG ในปัจจุบัน กล่าวว่าจะเปิดตัวรถผลิตจริงที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่โซลิดสเตทภายในปี 2025 แบรนด์จากเครือเดียวกันอย่าง IM Motor ได้เปิดตัว L6 รถที่ใช้แบตเตอรี่ semi-solid-state ความจุ 133 kWh ที่ขับขี่ได้ถึง 1,000 กม./ชาร์จ (CLTC) และการชาร์จเพียง 12 นาทีก็เพิ่มระยะทางได้ถึง 400 กม. เลยทีเดียว

5
ตรวจสุขภาพ: ไข้ฉี่หนู/เล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis)

เล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้เป็นครั้งคราวในแทบทุกจังหวัด พบมากในคนที่มีอาชีพที่ต้องย่ำน้ำหรือแช่น้ำ เช่น ทำนา ทำสวน จับปลา เก็บขยะ ขุดท่อ เลี้ยงสัตว์ ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ทำเหมืองแร่ แม่บ้านที่เตรียมอาหารจากเนื้อสัตว์ นักท่องเที่ยวที่นิยมเที่ยวป่า น้ำตก ทะเลสาบ ว่ายน้ำในแหล่งน้ำจืด เป็นต้น

พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2.5 เท่า ส่วนใหญ่พบในกลุ่มอายุ 15-54 ปี

โรคนี้พบได้ประปรายตลอดปี แต่จะพบมากในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีน้ำขัง หรือเกิดภาวะน้ำท่วม มีเชื้อโรคขังอยู่ในน้ำ เมื่อคนเดินลุยน้ำหรือลงแช่น้ำก็มีโอกาสได้รับเชื้อนี้ บางครั้งอาจพบมีการระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีภาวะน้ำท่วม

ในระยะหลังๆ นี้ พบผู้ป่วยเป็นโรคนี้กันมากทางภาคอีสาน เนื่องจากมีหนูชุกชุมตามท้องนา และมักจะเป็นชนิดรุนแรง ชาวบ้านเรียกว่า ไข้ฉี่หนู

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่าเชื้อ เล็ปโตสไปร่า (leptospira) มีอยู่หลายพันธุ์ย่อย ซึ่งก่อให้เกิดอาการและความรุนแรงแตกต่างกันไป ขึ้นกับชนิดและปริมาณของเชื้อ

เชื้อนี้จะมีอยู่ในไตของสัตว์ ที่พบบ่อย คือ หนูท่อ หนูนา หนูพุก นอกจากนี้ยังพบในสุนัข สุกร แมว โค กระบือ แพะ แกะ

เชื้อที่ก่อโรครุนแรงมีชื่อว่า Leptospira icterohaemorrhagiae อาศัยอยู่ในหนูและสุนัข Leptospira bataviae อาศัยอยู่ในหนู สุนัข โค กระบือ

สัตว์เหล่านี้จะปล่อยเชื้อออกมากับปัสสาวะ เชื้อจะสามารถมีชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะได้นานหลายเดือน

คนเราจะรับเชื้อเข้าร่างกาย โดยผ่านเข้าทางบาดแผลถลอกหรือขีดข่วนตามผิวหนัง หรือเข้าทางเยื่อบุตา จมูกหรือช่องปากที่ปกติ วิธีติดเชื้อที่สำคัญ ได้แก่ การย่ำน้ำที่ท่วมขัง (เช่น ตามซอกซอยในเมือง) หรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ (เช่น ตามท้องนา) และการแช่อยู่ในน้ำตามห้วยหนองคลองบึง เป็นเวลาเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป (เช่น จับปลา เก็บผัก เล่นน้ำ แข่งกีฬาทางน้ำ) นอกจากนี้ยังสามารถติดเชื้อโดยการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากปัสสาวะหนู หรือสัมผัสถูกเลือด ปัสสาวะ หรือเนื้อเยื่อของสัตว์ที่ติดเชื้อโดยตรง

ระยะฟักตัว 2-26 วัน (ที่พบบ่อย คือ 7-14 วัน)

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่แตกต่างตรงที่จะรู้สึกปวดมากตรงบริเวณน่อง หลัง และหน้าท้อง

บางรายอาจมีไข้ติดต่อกันหลายวันสลับกับระยะไข้ลด

บางรายอาจมีอาการตาแดง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน เจ็บคอ ไอ เจ็บหน้าอก บางรายอาจมีอาการปวดตรงชายโครงขวา (ซึ่งอาจปวดรุนแรง จนแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นภาวะปวดท้องเฉียบพลัน และผ่าตัดช่องท้องดู)

อาจมีอาการตาเหลืองเล็กน้อย หลังมีไข้ 4-7 วัน

ในรายที่เป็นรุนแรง (พบได้ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ป่วย) หลังมีไข้ 4-9 วัน จะมีอาการตาเหลืองจัด ปัสสาวะเหลืองเข้ม ปัสสาวะออกน้อย บางรายอาจมีอาการเลือดกำเดาไหล มีจุดแดงจ้ำเขียวขึ้นตามตัว หรืออาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายเป็นเลือด บางรายอาจมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง หายใจหอบ หรือไอเป็นเลือด

ภาวะแทรกซ้อน

ที่สำคัญและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ได้แก่ ไตวาย ภาวะเลือดออก (ซึ่งเกิดจากการอักเสบของผนังหลอดเลือด) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลือดออกในทางเดินอาหารและในปอด ซึ่งมักพบในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการดีซ่านร่วมด้วย

นอกจากนี้อาจพบภาวะตับวาย ปอดอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว หัวใจวาย เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

บางรายหลังจากอาการทั่วไปหายดีแล้ว อาจมีอาการผิดปกติทางจิต เช่น โรคจิต (psychosis) กระสับกระส่าย พฤติกรรมผิดปกติเป็นเวลานานมากกว่า 6 เดือน


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส

เยื่อตาขาวมีลักษณะบวมแดง (conjunctival suffusion) ที่ตา 2 ข้าง ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดที่เยื่อบุตาขยายตัว มักเกิดขึ้นภายใน 3 วันแรกของโรค และเป็นอยู่นาน 1-7 วัน อาจพบร่วมกับภาวะเลือดออกใต้ตาขาว

เมื่อใช้มือบีบบริเวณกล้ามเนื้อน่อง จะมีอาการเจ็บปวดมาก

บางรายอาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองโต ตับโต ม้ามโต ตาเหลืองเล็กน้อย หรือพบผื่นแดง ลมพิษตามผิวหนัง

บางรายอาจพบอาการคอแข็ง (หลังเป็นไข้ประมาณ 1 สัปดาห์)

การทดสอบทูร์นิเคต์อาจให้ผลบวก (ดูวิธีทดสอบใน โรคไข้เลือดออก ที่หัวข้อ "อาการ" เพิ่มเติม)

ในรายที่เป็นรุนแรง มักตรวจพบอาการตาเหลือง ตัวเหลืองจัด ตับโตและเจ็บ มีจุดแดงจ้ำเขียวหรือรอยห้อเลือดตามผิวหนัง อาการไตวายเฉียบพลัน

นอกจากนี้ ยังอาจตรวจพบภาวะซีด หายใจหอบเร็ว ภาวะหัวใจวาย ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอ ความดันต่ำ

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด จะพบจำนวนเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ บางรายอาจสูงถึง 50,000 ตัว/ลบ.มม. เกล็ดเลือดต่ำ นอกจากนี้ยังพบระดับของบียูเอ็น (BUN) ครีอะตินีน (creatinine) เอเอสที (AST) และเอแอลที (ALT) สูงกว่าปกติ

การตรวจปัสสาวะพบสารไข่ขาว เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว

     ในรายที่ปวดศีรษะรุนแรง หรือสงสัยเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบแทรกซ้อน อาจต้องเจาะหลัง

อาจต้องทำการเพาะเชื้อจากเลือด ปัสสาวะ หรือน้ำไขสันหลัง

การทดสอบทางน้ำเหลือง ซึ่งมีอยู่หลายวิธี เช่น IgM-ELISA, microscopic agglutination test (MAT), macroscopic slide agglutination test (MSAT), latex agglutination test, lepto-dipstick test เป็นต้น มักพบสารภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้ขึ้นสูง


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่เป็นไม่รุนแรง ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน หรือดอกซีไซคลีน

2.  ในรายที่เป็นรุนแรง แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด เช่น เพนิซิลลินจี ดอกซีไซคลีน หรือเซฟทริอะโซน (ceftriaxone) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

นอกจากนี้จะให้การรักษาตามอาการที่พบ เช่น ให้ยาลดไข้ ให้น้ำเกลือถ้ามีภาวะขาดน้ำ ให้เลือดถ้ามีเลือดออก

ถ้ามีภาวะไตวาย อาจต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis)

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงโรคและสภาพของผู้ป่วย ถ้าไม่มีอาการดีซ่าน อาการมักจะไม่รุนแรง แต่ถ้ามีดีซ่านร่วมด้วย มักจะมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และมีอัตราตายถึงร้อยละ 15-20 ซึ่งมักเกิดจากภาวะไตวาย หรือช็อกจากการเสียเลือด ภาวะรุนแรงมักเกิดในผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้สูงร่วมกับอาการหนาวสั่น หรือมีไข้ร่วมกับตาแดง ตาเหลือง ปวดศีรษะรุนแรง ปวดท้องมาก หรือปวดน่องมาก หรือมีไข้ในช่วงที่มีคนในละแวกใกล้เคียงเป็นไข้ฉี่หนู ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไข้ฉี่หนู (เล็ปโตสไปโรซิส) ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว เพ้อคลั่ง หรือชัก
    หายใจหอบ เจ็บหน้าอกมาก หรือชีพจรเต้นผิดปกติ
    ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย
    มีเลือดออก เช่น ถ่ายเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ
    ตาเหลืองตัวเหลือง หน้าตาซีดเซียว หรือเบื่ออาหารมาก
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. กำจัดหนู (ซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่สำคัญ) ทั้งในนาข้าวและในที่อยู่อาศัย

2. รักษาความสะอาดบริเวณบ้านเรือน อย่าให้มีขยะและเศษอาหารตกค้าง อันจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหนู

3. ถ้ามีบาดแผล รอยถลอก ขีดข่วน ให้ปิดแผลและหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่ท่วมขังหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ หรือลงแช่น้ำในห้วยหนองคลองบึง

4. ถ้าต้องเดินย่ำน้ำหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ (ตามตรอก ซอย คันนา ท้องนา ท้องไร่) ให้ใส่รองเท้าบู๊ตหรือรองเท้าหุ้มข้อ

5. อย่าลงแช่น้ำในห้วยหนองคลองบึงนานเกินครั้งละ 2 ชั่วโมง และเมื่อขึ้นจากน้ำควรฟอกสบู่และชำระด้วยน้ำสะอาด

6. เก็บหรือปกปิดอาหารและน้ำดื่มให้มิดชิด อย่าให้หนูปัสสาวะใส่

7. ดื่มน้ำต้มสุก และกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ด้วยความร้อน

8. หมั่นล้างมือภายหลังจับต้องเนื้อ ซากสัตว์ และสัตว์ทุกชนิด

9. ในกรณีที่ต้องเดินทางเข้าไปในแหล่งที่มีโรคนี้ชุกชุมในช่วงเวลาสั้น ๆ (เช่น การตั้งค่ายของกองทหาร นักเรียน นักศึกษา) และไม่สามารถใช้วิธีป้องกันอย่างอื่น ๆ ได้ ควรกินยาดอกซีไซคลีนป้องกันล่วงหน้า ครั้งละ 200 มก. ตั้งแต่ในวันแรกที่เข้าไป ต่อมากินทุกต้นสัปดาห์ และวันหยุดสุดท้ายก่อนกลับ

ข้อแนะนำ

1. อาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว นอกจากนึกถึงสาเหตุจากไข้หวัดใหญ่ ไทฟอยด์ สครับไทฟัส กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน มาลาเรีย ไข้เลือดออก ถุงน้ำดีอักเสบ และท่อน้ำดีอักเสบแล้ว จะต้องนึกถึงไข้ฉี่หนูหรือโรคเล็ปโตสไปโรซิสไว้ด้วยเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบมีอาการตาแดงหรือดีซ่านร่วมด้วย ในผู้ป่วยที่อยู่ในถิ่นที่มีโรคนี้ชุกชุม

2. โรคนี้ส่วนใหญ่ (กว่าร้อยละ 90) จะมีอาการไม่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่มีอาการดีซ่านร่วมด้วย จนบางครั้งมักจะวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือโรคติดเชื้อไวรัส ดังนั้นเมื่อพบผู้ป่วยที่มีอาการสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือโรคติดเชื้อไวรัส ควรตรวจโดยการบีบน่องผู้ป่วย ถ้ารู้สึกเจ็บน่องมาก ควรสงสัยว่าอาจเป็นไข้ฉี่หนูหรือเล็ปโตสไปโรซิส ควรสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด และไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว การรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ผู้ป่วยหายจากโรคได้ภายใน 10-14 วัน

ส่วนรายที่เป็นรุนแรง (พบได้ร้อยละ 10) มักจะมีอาการตาเหลืองจัด บางครั้งทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นตับอักเสบจากไวรัส ข้อแตกต่าง คือ ตับอักเสบจากไวรัสมักจะไม่มีไข้เมื่อมีอาการดีซ่าน ในขณะที่เล็ปโตสไปโรซิสจะมีไข้สูงขณะที่มีอาการดีซ่าน และมักจะมีอาการอื่น ๆ เช่น ไตวาย (ปัสสาวะออกน้อย) เลือดกำเดาไหล หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวร่วมด้วย

หากสงสัยควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็มักจะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์

6
townhouse เฌอ ราชพฤกษ์ - พระราม 5 (CHER Ratchaphruek - Rama V)
เริ่มต้น 3 ลบ.

เฌอ ราชพฤกษ์ - พระราม 5 (CHER Ratchaphruek - Rama V)
บ้านก่อสร้างด้วยอิฐมอญ มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนต่อเติมได้ในอนาคต รั้วหลังบ้านก่อกำแพงสูงทั้ง 3 ด้าน เพื่อความเป็นส่วนตัว คลับเฮ้าส์และสวนส่วนกลางสไตล์ Modern Traditional รองรับกิจกรรมที่หลากหลายของทุกคนในครอบครัว

เแบบบ้านทั้งหมดมี 3 แบบ

1. JUNIPER (จูนิเพอร์) แบบบ้านที่ 1 (หน้ากว้าง 5.2 เมตร) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.20 x 13.00 เมตร
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ที่จอดรถ
ขนาดที่ดินมาตรฐาน : 16.90 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย : 108.16 ตร.ม.
จำนวน 37 แปลง

2. MYRTLE (ไมร์เทิล) แบบบ้านที่ 2 (หน้ากว้าง 5.7 เมตร) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.70 x 13.50 เมตร
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ
ขนาดที่ดินมาตรฐาน : 19.24 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย : 125.40 ตร.ม.
จำนวน 84 แปลง

3. HAWTHORN (ฮอธอร์น) แบบบ้านที่ 3 (หน้ากว้าง 8 เมตร) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.00 x 12.50 เมตร
3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ
ขนาดที่ดินมาตรฐาน : 27.40 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย : 159.20 ตร.ม.
จำนวน 12 แปลง

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ          เฌอ ราชพฤกษ์ - พระราม 5 (CHER Ratchaphruek - Rama V)
 เจ้าของโครงการ    พีซแอนด์ลีฟวิ่ง
 แบรนด์ย่อย          เฌอ
 ราคา                  เริ่มต้น 3 ลบ.

 ประเภทบ้าน       ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล      บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ     12 ไร่ 2 งาน 22 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน        133 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด  3 แบบ
  เนื้อที่บ้าน         ตั้งแต่ 16.9 ถึง 27.4 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย       ตั้งแต่ 108.16 ถึง 159.2 ตร.ม.
 จำนวนชั้น          2 ชั้น
 หน้ากว้าง          ตั้งแต่ 5.2 ถึง 8 ม.
 จำนวนห้องนอน   ตั้งแต่ 2 ถึง 3 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ   ตั้งแแต่ 1 ถึง 2 คัน
 สาธารณูปโภค     สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ (ระบบเกลือ ขนาด 3.80x11.44 ม. แยกโซนผู้ใหญ่ (ความลึก 1.20 ม.) และโซนเด็ก (ความลึก 0.50 ม.) พร้อม Pool Terrace), ฟิตเนส, รปภ., CCTV, Keycard System, สนามเด็กเล่น, Jogging Track, Co-working space

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน        นนทบุรี, บางบัวทอง, บางใหญ่, ปากเกร็ด
 ที่ตั้ง       ซอยบางกรวย-ไทรน้อย 25 ตำบลบางสีทอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีม่วง, สถานี(บางซื่อ - บางใหญ่)(กระทรวงสาธารณสุข)
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีม่วง, สถานี(บางซื่อ - บางใหญ่)(แยกติวานนท์)
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน, สถานี(มักกะสัน - ศาลายา)(บางบำหรุ)
ใกล้ทางด่วน (ทางพิเศษประจิมรัถยา (ด่านบำหรุ))
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนนครอินทร์, ถนนราชพฤกษ์, ถนนกรุงเทพนนท์, ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนติวานนท์, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนนนทบุรี)
ขนส่งอื่นๆ ท่าเรือ - ท่าน้ำนนทบุรี 4.7 กม., ท่าเรือสะพานพระราม5 2.7 กม.

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
Lotus’s นครอินทร์ 630 ม.
Makro นครอินทร์ 1.8 กม.
The Walk ราชพฤกษ์ 4.4 กม.
HomePro ราชพฤกษ์ 4.8 กม.
ตลาดพระราม5 5.6 กม.
The Crystal SB ราชพฤกษ์ 6 กม.
Central Westville 6.3 กม.
Central ปิ่นเกล้า 8.9 กม.
Central รัตนาธิเบศร์ 9.2 กม.
The Mall งามวงศ์วาน 9.7 กม.
IKEA บางใหญ่ 12.5 กม.
Central Westgate 13.2 กม.

สถานศึกษา
ร.ร.ประสาทวิทยานนทบุรี 1.5 กม.
ร.ร.บดินทรเดชา นนทบุรี 2.5 กม.
ร.ร.สตรีนนทบุรี 5 กม.
ร.ร.เด่นหล้า พระราม5 5.9 กม.
ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการนนทบุรี 6.5 กม.
ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 6 กม.

โรงพยาบาล
ร.พ.ตา หู คอ จมูก 5.6 กม.
ร.พ.พระนั่งเกล้า 6.2 กม.
ร.พ.ยันฮี 7.6 กม.
ร.พ.ศิริราช 10.2 กม.
ร.พ.บางใหญ่ 11.6 กม.

สถานราชการ
ศูนย์ราชการนนทบุรี 7.5 กม.
กระทรวงสาธารณสุข 8.3 กม.

 ปีที่สร้างเสร็จ          2024

7
ซ่อมบำรุงอาคาร: เคล็ดลับกำจัดเชื้อราบนผนัง !

ปัญหาคราบเชื้อราบนผนัง ถือว่าเป็นปัญหากวนใจแม่บ้านหลายคน เพราะเวลาที่เราจะกำจัดออกไปนั้น ก็ยากซะเหลือเกิน เชื้อรา เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วไปในอากาศ สามารถเจริญเติบโตและเกิดขึ้นในบริเวณที่มีความชื้นหรือที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก โดยเฉพาะภายในบ้านของเรา นอกจากนี้ เชื้อรายังเป็นสาเหตุการเกิดโรคต่าง ๆ ดังนั้น หากพบเชื้อราในบ้าน ควรกำจัดทันที โดยต้องคำนึงถึงวิธีการกำจัดเชื้อราเพื่อไม่ให้เชื้อรากลับมาอีก เพราะถ้าใช้วิธีการกำจัดไม่ถูกต้อง แน่นอนว่าเชื้อราเหล่านั้นจะกลับมาทำร้ายสุขภาพของคนในบ้าน เพราะมันสามารถสร้างสปอร์ให้กระจายออกไปในอากาศ เมื่อสูดเข้าไปเป็นระยะเวลานาน


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปริมาณมาก จะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ คัดจมูก ระคายเคืองตา และก่อให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหอบหืดและโรคปอดอักเสบ หากผู้ที่แพ้ราได้สัมผัสเชื้อรา ไม่ว่าจะทางผิวหนังหรือการสูดดมก็ตาม จะทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น ผื่นแพ้ ตาอักเสบ เจ็บคอ น้ำมูกไหลได้ ดังนั้น ทางเราจะมาแนะนำวิธีการกำจัดเชื้อราบนผนัง ไม่ว่าจะเป็นผนังปูน หรือบนวอลเปเปอร์ของเรา ซึ่งเจ้าตัวเชื้อรานอกจากจะทำลายสุขภาพแล้ว ยังทำให้บ้านของเราดูเก่าและโทรมได้อีกด้วย


การกําจัดเชื้อราบนผนังและกำแพงให้หายไปโดยไม่กลับมาอีก เป็นสิ่งที่ควรรีบทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วหากเชื้อราเข้ามาสะสมในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือภูมิแพ้อยู่แล้ว ก่อนอื่นเราจะต้องสังเกตภายในบ้านของเราก่อนว่า มีบริเวณไหนมีความชื้นบ้าง เพราะหลายบริเวณในบ้าน มักเป็นพื้นที่สะสมความชื้นที่หลายคนมองข้าม เช่น ผนังที่อยู่ใกล้กับถังรองน้ำ ท่อน้ำในบ้าน ผนังห้องที่เกี่ยวข้องกับความชื้นอย่างห้องน้ำ ไปจนถึงผนังที่ติดเครื่องปรับอากาศหรือคอมเพรสเซอร์ บริเวณเหล่านี้ต่างก็เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อความชื้น ทำให้เกิดเชื้อราบนผนังได้ง่าย และในการกำจัดเชื้อราบนผนัง ควรขัดล้างหรือขูดสีผนังเดิมออกให้หมดก่อน จากนั้นทิ้งให้แห้ง 1-2 วัน จึงค่อยทาน้ำยาป้องกันเชื้อรา และทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมง โดยไม่ต้องล้างออก


ขั้นตอนสุดท้าย คือ ทาสีลงบนผนังจำนวน 2-3 รอบ ทั้งนี้ ไม่ควรทาสีหรือแล็กเกอร์ทับผนังที่มีเชื้อราโดยตรง เพราะจะทำให้เชื้อรายังคงอยู่และไม่หายไปไหน สำหรับคราบเชื้อราบนวอลเปเปอร์ จะต้องลอกวอลเปเปอร์ของเก่าที่มีเชื้อราออกทั้งหมด เพราะหากทิ้งไว้ จะทำให้เชื้อราลามไปส่วนอื่นๆ ได้ และควรตรวจสอบบริเวณผนังว่ามีรอยรั่วและร้าวหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณที่มีท่อน้ำ เพราะบริเวณนี้จะมีความชื้นมากกว่าที่อื่น ซึ่งเป็นไปได้สูงที่จะเกิดเชื้อรา เมื่อตรวจเรียบร้อยแล้ว ให้ทิ้งไว้จนผนังแห้งสนิท จากนั้นนำกรดซาลิไซลิดผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1 ต่อ 5 และนำผ้ามาชุบไปเช็ดจนกว่าจะแน่ใจว่าสะอาด แล้วรอให้แห้งและติดวอลเปเปอร์ใหม่ได้ และอีกหนึ่งตำแหน่งที่เชื้อรามักจะสะสมอยู่ที่เราก็ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ บนเฟอร์นิเจอร์


ส่วนใหญ่เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นวัสดุจากไม้เนื้ออ่อน เมื่อมีความชื้นจะเสี่ยงต่อการขึ้นราอยู่แล้ว หากพบว่ามีเชื้อรา ควรนำมาล้างทำความสะอาดภายใน 1-2 วัน หลังจากนั้น ควรย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือที่ที่ได้รับแสงแดดส่องถึงประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วคอยดูว่ายังมีเชื้อราอยู่อีกหรือไม่ หากยังมีควรนำมาทำความสะอาดใหม่อีกครั้ง เพียงเท่านี้ บ้านของเราก็จะปราศจากเชื้อราที่เป็นภัยร้ายทำให้บ้านของเราดูไม่น่ามอง แถมยังเป็นปัญหาสุขภาพที่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้น เราควรดูแลรักษาบ้านของเราให้น่าอยู่ ให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของคนในบ้าน

ทางเราจึงเน้นย้ำมาตลอดว่า ในเรื่องของความสะอาดภายในบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญและดีต่อสุขภาพของคนในบ้าน โดยทางเรามีบริการรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้สะอาด สะดวก และถูกสุขลักษณะ มีการพัฒนารูปแบบการทำความสะอาดให้เหมาะสมกับธุรกิจที่หลากหลายของลูกค้า ตรงเป้าหมาย เพราะเราให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ ความ สามารถ และมีทัศนคติที่ดีในการทำงานเพื่อที่จะส่งมอบบริการต่าง ๆให้กับ ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

8
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



9
ขายรถไมล์น้อย Mitsubishi XPander Cross ปี2023 ราคาพิเศษ ประหยัดน้ำมัน

มิตซูบิชิ Mitsubishi Xpander Cross ปี 2023
Mitsubishi Xpander Cross รถยนต์เอสยูวี 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ใหม่สไตล์โฉบเฉี่ยว สะท้อนความหรูหราผสานดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ และผู้ขับขี่ที่รักการผจญภัยและออกทริปเอาท์ดอร์ ด้วยฟังก์ชั่นระบบการขับขี่สุดล้ำสมัยที่เหนือกว่ารถในรุ่นเดียวกัน อย่างเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ “เอวายซี” (Active Yaw Control: AYC) ให้ความปลอดภัย เสถียรภาพการทรงตัว และความสะดวกสบายสูงสุด ในหลากหลายสภาพถนนและสภาพอากาศที่แตกต่าง มากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC DOHC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ ECO-Dynamic CVT ตอบสนองการทำงานกับเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2567
ฟรี ประกันหลังการขาย เครื่อง เกียร์ (ส่งซ่อมห้าง) 1 ปี / 10,000 กม.
ฟรี บริการเซ็นเอกสารจัดไฟแนนซ์ถึงบ้านทั่วไทย

ราคาพิเศษ 628,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                 Mitsubishi
   รุ่น                          มิตซูบิชิ Mitsubishi Xpander Cross ปี 2023
   ประเภทรถ         รถอเนกประสงค์ MPV
   ปีที่เปิดตัว          2023


10
เมื่อจัดฟันเด็กแล้ว โตขึ้นต้องจัดฟันอีกหรือไม่

ในเรื่องอของการเริ่มต้นกิจวัตรประจำวันในการทำความสะอาดช่องปากของลูกเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้ปกครองควรเริ่มต้นแปรงฟันทันทีเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกปรากฏขึ้น โดยใช้แปรงสีฟันที่เหมาะสมต่อช่วงอายุ การดูแลอนามัยช่องปากของลูกก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน หลังจากฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น การแปรงฟันในตอนเช้าและก่อนนอน ถ้าเป็นไปได้ควรแปรงฟันหลังมื้ออาหารด้วย ควรใช้แปรงสีฟันเฉพาะสำหรับเด็กที่มีหัวแปรงขนาดเล็กและขนนุ่มพิเศษ ก่อนที่ฟันจะขึ้นคุณแม่ควรใช้ผ้านุ่มๆเช็ดทำความสะอาดเหงือกถึงแม้ว่าน้ำลายเป็นสิ่งปกป้องฟันตามธรรมชาติ จะมีการผลิตลดลงในช่วงเวลานอนหลับ จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องการการดูแลอนามัยช่องปากมากที่สุด

ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรใส่ใจในเรื่องของช่องปากของลูก ตั้งแต่การเลือกใช้ยาสีฟันที่เหมาะสมกับลูกเนื่องจากมีความเสี่ยงที่ลูกของคุณจะกลืนยาสีฟันได้  ฟลูออไรด์จากยาสีฟันที่อยู่ในน้ำลายมีความสำคัญมากในการป้องกันฟันผุ ควรบีบยาสีฟันบางๆ และสอนให้เขารู้จักการทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้ป้องกันการเกิดฟันผุหรือปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

แน่นอนว่า ถ้าหากเราละเลยในการเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน อาจจะทำให้เด็กไม่สนใจในเรื่องของช่องปากและฟัน และอาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ นอกจากนี้  ในเรื่องของการรับประทานอาหารของลูกก็มีความสำคัญมากไม่แพ้กัน ควรให้เด็กรับประทานอาหารที่ถูกสัดส่วน จำกัดปริมาณแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสร้างกรดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ หากต้องรับประมานอาหารเหล่านั้น ควรรับประทานไปพร้อมกับมื้ออาหารหลัก แทนที่จะเป็นอาหารว่าง เนื่องจากน้ำลายที่ถูกผลิตออกมาในปริมาณมากช่วงมื้ออาหารหลักจะช่วยชะล้างการตกค้างของเศษอาหารได้มากกว่า เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยให้บุตรหลานของท่านไม่ต้องมีปัญหาในเรื่องของช่องปากและฟัน

แต่ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน และคิดว่าลูกจะต้องเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ามาพบทันตแพทย์จัดฟันได้ แต่การที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะตัดสินใจให้ลูกเข้ารับการจัดฟัน หลายคนก็คิดหนักและเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากพาลูกเข้ารับการจัดฟันในเด็กแล้ว พอโตมาลูกจะต้องเข้ารับการจัดฟันอีกหรือไม่ ซึ่งวันนี้ทางคลินิกของเรามีคำตอบ ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็กก่อนว่า สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างหลากหลาย และเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพมาก หากเราปฏิบัติตัวตำคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดแน่นอนว่า ฟันสวยของเราจะอยู่กับเราอย่างถาวรแน่นอน

สำหรับการที่เด็กเคยผ่านการจัดฟันในเด็กมาแล้ว เพื่อโตเป็นผู้ใหญ่อาจจะต้องจัดฟันใหม่หรืออาจจะไม่ต้องเข้ารับการจัดฟันอีกครั้งก็ได้ สำหรับเด็กที่จัดฟันใน ระยะการจัดฟันเพื่อป้องกันไม่ให้ความผิดปกติมีมากขึ้นหรือแก้ไขความผิดปกติบางอย่างให้มีน้อยลงหรือหายไป มาก่อน ไม่ได้หมายความว่า โตขึ้นแล้วไม่จำเป็นจะต้องจัดฟันแบบติดแน่น เพราะในเด็กบางราย อาจสามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องจัดฟันอีกตอนโต ในขณะที่บางรายก็จำเป็นที่ต้องรับการรักษาจัดฟันแบบติดแน่นอีกครั้ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก และพฤติกรรมของเด็กด้วย เพราะฉะนั้น เราจะต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเราให้สะอาดอยู่เสมอ ควรใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟัน จะเป็นการขจัดเชื้อโรคไป

 ด้วย แล้วจึงแปรงฟันด้วยแปรงขนนุ่ม โดยเลือกขนาดของแปรงให้เหมาะกับช่องปากและฟัน สำหรับยาสีฟันควรมีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ และแนะนำให้แปรงแห้งคือ บ้วนปาก บีบยาสีฟันแล้วแปรง บ้วนยาสีฟันส่วนเกินออก หลังแปรงไม่ต้องบ้วนปากอีก ก็จะทำให้เด็กมีช่องปากและฟันที่แข็งแรงได้

อย่างไรก็ตาม หากใครสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในด้านทันตกรรมในเด็ก จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้องมากที่สุด จึงมั่นใจได้ว่า หากเข้ารับกบริการจากทางคลินิก ลูกของคุณจะมีฟันที่สวยงาม มีสุขภาพช่องปากและหันที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

11
8 วิธีทำบุญทำทานง่าย ๆ นอกจากการไปวัด

เนื่องด้วยปัจจุบันเราเผชิญกับสภาวะการจราจรที่ติดขัดมาก ไปไหนมาไหนทีนึงก็ค่อนข้างที่จะยากลำบาก เดินทางไม่ดวก หรือแม้แต่ระยะทางและเวลาที่เป็นอุปสรรคก็ตาม จนทำให้เราไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเข้าวัดทำบุญเลย ต้องมองหาตัวเลือกอื่นที่สามารถทำได้ เอ แต่จะทำยังไงดีนะ? ดังนั้นวันนี้เราขอนำเสนอวิธีการทำบุญและทำทานแบบง่าย ๆ ที่นอกเหนือจากการไปวัดมาฝากแฟน ๆ กันค่ะ

          1. รักษาศีล

          การรักษาศีลได้ ก็นับว่าเป็นการได้ทำบุญแล้วค่ะ ดังนั้นพยายามหมั่นรักษาศีลกันให้ได้นะคะ หากศีล 8 ยากไป อย่างน้อยก็ขอให้รักษาศีล 5 ให้ได้เป็นประจำ ด้วยอานิสงส์เหล่านี้จะส่งผลดีกับตัวเราและทำให้เราได้รับบุญกุศลด้วยค่ะ

          2. คิดดี ทำดีอยู่เสมอ

          พยายามคิดแต่สิ่งดี ๆ พูดแต่สิ่งดี ๆ และทำแต่สิ่งดี ๆ รู้จักปล่อยวาง มองโลกในแง่ดี และหากมีคนมาขอความช่วยเหลือ ขอคำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องไหนก็ตาม หากเราสามารถช่วยเหลือได้ ก็ควรช่วยเหลือเขาไปด้วยความเต็มใจ

          3. ทำบุญทำทานด้วยการให้และบริจาคตามกำลัง

          หมั่นทำบุญทำทานให้กับคนยากไร้ คนที่เดือดร้อน มูลนิธิ ผู้ประสบภัยต่าง ๆ หรือบ้านพักคนชรา สถานสงเคราะห์ต่างๆ บริจาคข้าวของที่จำเป็น เครื่องใช้ อาหาร ยารักษาโรคตามกำลังทรัพย์ของตัวเอง เอาที่ตัวเองสบายใจและไม่เดือดร้อนจะดีที่สุด หรือแม้แต่การบริจาคเสื้อผ้า สิ่งของที่เราไม่ได้ใช้แล้วให้กับผู้อื่นก็นับว่าเป็นการทำบุญค่ะ

          4. ทำบุญกับสัตว์

          หากไม่มีเวลาไปไหว้พระหรือทำบุญที่วัดจริง ๆ ให้หาเวลาว่างตอนไหนก็ได้ไปปล่อยชีวิตสัตว์เป็นทาน เช่น ปล่อยนก ปล่อยปลา ไถ่ชีวิตโคกระบือ หรืออาจจะช่วยเหลือสัตว์โดยการทำบุญตามมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์ หรือหากว่าใครมีสัตว์เลี้ยง ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยเค้านะคะ ควรใส่ใจดูแลรักษาความสะอาด ให้ข้าว ให้น้ำ หรือหากมีเวลาก็พาเค้าไปเดินเล่นวิ่งเล่นข้างนอกบ้านบ้าง

          5. งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

          ควรงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยค่ะ เมื่อเราทานอาหารอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรนำจานชามหรือแก้วน้ำไปล้างทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เนื่องจากหากปล่อยไว้ มดก็จะขึ้น และอาจทำให้เราเผลอฆ่ามันไปโดยไม่ตั้งใจได้ นอกจากนี้บางคนอาจจะใช้วิธีกินเจหรือมังสวิรัติเป็นเวลา 3 วัน 7 วัน หรือเลือกทานเฉพาะในวันเกิดของตัวเองก็ได้ สามารถปรับเลือกได้ตามความสะดวกและเหมาะสมของแต่ละคนเลยค่ะ

          6. สวดมนต์ นั่งสมาธิ

          หาเวลานั่งสมาธิอย่างน้อย วันละ 15 นาที และสวดมนต์บทอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะแผ่เมตตา บทพุทธคุณ อิตอิปิโส คาถาชินบัญชร บทพาหุงมหากา หรืออะไรก็ได้ ตามแต่ศรัทธาและความสะดวกเลย หากปฏิบัติได้ทุกวัน นอกจากจะทำให้จิตใจเรานิ่งสงบ มีสติและสมาธิในการทำสิ่งต่าง ๆ แล้ว ยังได้บุญอีกด้วยค่ะ

         7. ให้อภัยผู้อื่น

          การให้อภัยนับว่าเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ดังนั้นหากใครทำอะไรก็ตามให้เราโกรธเคือง เราไม่ควรเก็บมาเคียดแค้นเคืองโกรธใด ๆ แต่ในทางตรงกันข้ามเราควรให้อภัย และอโหสิกรรมแก่กันไป หากเราสามารถให้อภัยทานและก้าวข้ามผ่านมันไปได้ จะทำให้เราเติบโตขึ้น รวมถึงจิตใจได้ผ่อนคลาย รู้สึกสบายและเป็นสุขด้วย

          8. ทำบุญกับพระที่บ้าน

          ไม่ต้องไปไกลที่ไหนเลยค่ะ เพียงแค่คุณทำบุญกับพระที่บ้าน ซึ่งก็คือ พ่อ แม่ หรือผู้ที่มีบุญคุณกับเรา เลี้ยงดูเรามา โดยการเลี้ยงดูอุ้มชูท่าน ทำให้ท่านมีความสุข ทำแต่สิ่งดี ๆ ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน หากมีเวลาก็พาท่านไปเที่ยวหรือไปทานอาหารข้างนอกบ้านบ้าง เมื่อคุณเห็นท่านมีความสุข ยิ้มได้ เพียงเท่านี้ก็ทำคุณรู้สึกอิ่มเอมใจและมีความสุขตามไปด้วยแล้วค่ะ

เห็นไหมว่าไม่ยากเลยกับการจะทำบุญทำทาน ? แบบไม่ต้องไปวัดดังข้างต้น ลองนำไปปฏิบัติตามกันดูนะคะ รับรองว่าทำได้ตามนี้ คุณก็จะได้รับอานิสงส์ผลบุญกันไปแบบจุก ๆ เลยล่ะค่ะ

12
รถไฟฟ้า ev Aion Y Plus 490 Premium ปี 2024
949,900 บาท 

Aion Y Plus 490 Premium ปี 2024
Aion Y Plus 490 Premium เป็นรถรุ่นไฮไลต์ยอดนิยมของ AION ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากนับตั้งแต่การเปิดตัว โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP ชั้นนำของอุตสาหกรรม แพลตฟอร์มนี้รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ความปลอดภัยสูง AION Y Plus ยังมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ความชาญฉลาดขั้นสูง และความสวยงามที่น่าดึงดูด ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ AION Y Plus กลายเป็นรุ่นที่ขายดีได้ไม่ยาก

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์           Aion
   รุ่น                Aion Y Plus 490 Premium ปี 2024
   ประเภทรถ       Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว         2024
   ราคา

ดีไซน์
   ภายนอก
ระบบควบคุมระยะการจอด (เรดาห์ท้ายรถ)
ราวหลังคา (สีเงิน)
ไฟหน้า LED
ไฟท้าย LED
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (เปิด-ปิดได้ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า)
ขนาดยางหน้า-หลัง (215/55 R17)
ไฟ Daytime Running Lights (LED)
ล้ออัลลอย (17 นิ้ว)

   ภายใน
ตกแต่งภายใน (มีหลายโทนสี)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
ม่านบังแดด (เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (โหมดการขับขี่ ECO / Normal / Sport)
พวงมาลัยไฟฟ้า (EPAS)

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                มอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)   แรงม้า
   ระบบเกียร์                     เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS            มี
   ชนิดแบตเตอรี่              ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่            63.2 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง   490 กม. (มาตรฐาน NEDC)
   น้ำหนักตัวรถ                     1,750 กก.
   ประเภทยางรถยนต์               -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                  ล้ออัลลอย (17 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                 ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
กุญแจรีโมท (Smart Keyless Entry)
ไฟเบรกดวงที่ 3 (LED)
ระบบป้องกันสำหรับกระจกไฟฟ้า (ป้องกันการหนีบ)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน,ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ)
เข็มขัดนิรภัย
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)
กล้อง (มองภาพรอบคัน 360 องศา)
เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collisio
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB)
เบรกมือไฟฟ้า (และ Auto Brake Hold)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย (เบาะนั่งคู่หน้า)

13
รถแลกเงิน คืออะไร? จำเป็นหรือไม่ที่ต้องปลอดภาระก่อน

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้บริการ รถแลกเงิน

สินเชื่อรถแลกเงินหรือสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เป็นประเภทของสินเชื่อที่คนคุ้นหูกันดี หลายคนพอจะทราบว่าสินเชื่อประเภทนี้เป็นการขอสินเชื่อโดยใช้รถเป็นประกันเวลากู้ยืมเงินหรือเรียกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้ ซึ่งสินเชื่อดังกล่าวยังคงมีรายละเอียดอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ วันนี้พี่เบิ้มรวบรวมประเด็นที่ควรรู้ และมีความน่าสนใจสำหรับคนที่มองหาแหล่งเงินกู้ดี ๆ และมีรถส่วนตัวปลอดภาระมาฝาก พร้อมตอบคำถามว่าการขอสินเชื่อรถแลกเงิน จำเป็นต้องเป็นรถปลอดภาระไหม และรถที่ยังไม่ปลอดภาระขอได้หรือเปล่า คนที่มองหาคำตอบในประเด็นนี้และเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถประเภทนี้ต้องแวะมาอ่านบทความนี้เลย

รถแลกเงิน คืออะไร?

สินเชื่อรถแลกเงินสำหรับการเปลี่ยนรถเป็นเงินก้อนทันใจ

สินเชื่อรถแลกเงินเป็นการขอสินเชื่อประเภทหนึ่งที่มีสัญญาการกู้ยืมเงินจากธนาคาร หรือแหล่งเงินกู้ที่น่าเชื่อถือ โดยใช้รถเป็นประกันเวลาขอสินเชื่อ แต่การใช้รถเป็นประกันไม่ได้หมายความว่าต้องจอดรถเอาไว้ที่สถาบันเงินกู้ เพราะนี่เป็นการวางเล่มทะเบียนรถเอาไว้ที่สถาบันการเงินเจ้าของสินเชื่อเท่านั้น ทั้งนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ (1) สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม และ (2) สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม โดยสินเชื่อประเภทนี้สามารถใช้ได้กับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ตอบโจทย์ทั้งคนที่มีรถเล็กหรือรถใหญ่ก็ขอสินเชื่อได้ ก่อนตัดสินใจกู้สินเชื่อรูปแบบนี้ควรรู้ข้อดีและข้อเสียที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวนี้ ดังนี้

ข้อดีของสินเชื่อรถแลกเงิน

1.    ได้รับเงินก้อน

ผู้ยื่นขอสินเชื่อจะได้รับเงินก้อนใหญ่ เพราะการใช้รถที่มีมูลค่าสูงเป็นหลักประกันจะได้วงเงินค่อนข้างสูงตามไปด้วย จำนวนเงินกู้ที่ได้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแหล่งเงินกู้ คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ และจากสภาพรถที่นำมาขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถประเภทนี้เป็นหลัก


2.    มีรถสำหรับใช้งานเหมือนเดิม

จุดเด่นของสินเชื่อรถแลกเงินคือการที่ยังคงมีรถใช้เหมือนเดิม เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว เจ้าของรถเพียงวางเล่มทะเบียนรถเป็นประกันเท่านั้น ส่วนรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ยังสามารถนำกลับมาใช้งานได้ปกติ ไม่ต้องจอดเอาไว้ที่สถาบันที่ขอสินเชื่อแต่อย่างใด


3.    ขอสินเชื่อง่ายผ่านออนไลน์

ปัจจุบันการทำธุรกรรมออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น การกู้สินเชื่อรูปแบบนี้ยังมีให้บริการทางออนไลน์เช่นกัน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขอสินเชื่อ และง่ายต่อการติดตามผลอนุมัติ ผู้ที่สนใจขอสินเชื่อก็สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งขอสินเชื่อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องเดินทางไปสอบถามเองถึงที่ทำการ


4.    วางแผนการชำระเองได้

การจำนำเล่มทะเบียนรถมีทั้งสินเชื่อแบบโอนเล่มที่คิดดอกเบี้ยคงที่ โดยส่วนใหญ่อัตราดอกเบี้ยจะไม่สูงมากนัก แต่ดอกเบี้ยในแต่ละงวดจะคิดเท่ากันตลอดอายุสัญญา และแบบไม่โอนเล่มที่คิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ที่ดอกเบี้ยจะลดลงตามจำนวนเงินต้นที่ลดลง ผู้ขอสินเชื่อสามารถวางแผนการจ่ายเพื่อปิดยอดให้เร็วขึ้นได้ หรือที่นิยมเรียกว่าโปะเงินต้น เมื่อเงินต้นน้อย ดอกเบี้ยก็จะน้อยตาม การผ่อนชำระก็จะหมดเร็วขึ้น ผู้ขอสินเชื่อสามารถเลือกขอสินเชื่อในแบบที่ตนเองสะดวกผ่อนชำระได้


5.    มีตัวเลือกแหล่งเงินกู้เยอะ

แหล่งเงินกู้ที่ให้บริการสินเชื่อรถแลกเงินมีอยู่มากมายในปัจจุบัน ทั้งธนาคารและไม่ใช่ธนาคาร ผู้ที่ต้องการนำรถมาเปลี่ยนเงินสามารถเปรียบเทียบข้อดีด้วยตนเอง แล้วมองหาแหล่งเงินกู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้เงินของตนเองมากที่สุด


ข้อเสียของการนำรถแลกเงิน

1.    ต้องมีรถที่เข้าเงื่อนไข

ตามปกติแล้วสถาบันการเงินจะกำหนดคุณสมบัติของรถที่ใช้ในการขอสินเชื่อ เช่น ต้องเป็นรถยนต์ปลอดภาระ อายุรถไม่เกิน 20 ปี สภาพรถต้องคงเดิม ไม่มีการแต่งรถที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น ผู้ที่เป็นเจ้าของรถควรถนอมรถให้เข้าคุณสมบัติเอาไว้จะดีกว่า เผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินต้องการเงินด่วน รถที่มีจะได้เป็นตัวช่วยหาเงินก้อนได้


2.    เพิ่มภาระในการใช้จ่ายแต่ละเดือน

การกู้สินเชื่อจะต้องผ่อนชำระเป็นงวด ๆ เป็นประจำทุกเดือน ผู้ขอสินเชื่อจึงต้องบริหารจัดการรายได้ในแต่ละเดือนให้เป็นระบบ และแบ่งเงินส่วนนั้นมาจ่ายยอดชำระสินเชื่อทะเบียนรถด้วย เพื่อให้การผ่อนชำระสิ้นสุดตามระยะเวลาที่กำหนด


3.    มีเงื่อนไขของแหล่งเงินกู้แตกต่างกัน

เนื่องจากแหล่งเงินกู้ที่ให้บริการสินเชื่อรถแลกเงินมีให้เลือกมากมาย เงื่อนไขของแต่ละที่ก็แตกต่างกันไปตามนโยบายของแหล่งขอสินเชื่อนั้น ๆ ทำให้ผู้ขอสินเชื่อที่กำลังพิจารณาแหล่งเงินกู้หลายแหล่งเกิดความสับสนในเงื่อนไขได้ จึงควรศึกษาเงื่อนไขและทำความเข้าใจคุณสมบัติของแต่ละแห่งอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจกู้สินเชื่อ


4.    มีความเสี่ยงจากการกู้ยืม

การกู้ยืมที่มีการวางสินทรัพย์เป็นประกันมีความเสี่ยงที่จะถูกยึดทรัพย์ได้ หากไม่ชำระสินเชื่อตามเงื่อนไขที่กำหนด ก่อนการขอสินเชื่อจึงควรมั่นใจว่าสามารถหาเงินมาชำระยอดเงินกู้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถประเภทนี้ได้

การขอสินเชื่อทะเบียนรถเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินด่วน แต่ก่อนขอสินเชื่อก็ต้องทำความเข้าใจเงื่อนไข และเลือกแหล่งเงินกู้ให้ดี เพื่อประโยชน์ของตัวผู้ขอสินเชื่อเอง


เปรียบเทียบสินเชื่อรถแลกเงินโอนเล่มและไม่โอนเล่ม

ปัจจุบันการใช้รถมาเปลี่ยนเป็นเงินก้อนหรือจำนำเล่มทะเบียนมีให้เลือกใช้บริการทั้งแบบโอนเล่มและไม่โอนเล่มดังที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยแต่ละแบบมีจุดเด่นแตกต่างกัน ดังนี้

แบบโอนเล่ม

ความหมายตรงตัวที่ไม่จำเป็นต้องโอนเล่มทะเบียน การขอสินเชื่อรถยนต์ โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์บนเล่มทะเบียนรถเป็นชื่อของสถาบันเงินกู้ วิธีนี้มีจุดเด่นหลัก ๆ ดังนี้


1.    ได้เงินก้อนสูงกว่า

การขอสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนแบบโอนเล่มมักได้เงินก้อนสูงกว่า แต่ก็ต้องเสียเวลาทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถด้วยเช่นกัน การอนุมัติจึงช้ากว่าแบบไม่โอนเล่ม เพราะต้องรอทำเรื่องโอนรถให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้


2.    จ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่

สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนแบบโอนเล่มจะคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ คือดอกเบี้ยคงที่ไม่ลดหรือเพิ่มตลอดอายุสัญญา มีการกำหนดยอดชำระเป็นรายเดือนด้วยยอดชำระที่แน่นอน ง่ายต่อการวางแผนการชำระ ทั้งอัตราดอกเบี้ยมักจะถูกกว่าแบบไม่โอนเล่มอีกด้วย


แบบไม่โอนเล่ม

หมายถึง การขอสินเชื่อรถโดยที่ไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์บนเล่มทะเบียน ทำเพียงฝากเล่มทะเบียนรถฉบับจริงไว้ที่แหล่งบริการเงินกู้ มีจุดเด่นหลัก ๆ ดังนี้

1.    คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

การคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกของสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนแบบไม่โอนเล่ม ช่วยให้การผ่อนชำระค่างวดรถยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น สามารถนำเงินมาโปะเงินต้นเพื่อลดดอกเบี้ยได้ ทำให้ผ่อนจ่ายหมดได้เร็วขึ้น เพราะเมื่อเงินต้นน้อยลง ดอกเบี้ยก็จะน้อยลงตามไปด้วย หากขยันจ่าย ยอดก็จะหมดเร็วกว่ากำหนด


2.    ไม่ยุ่งยากในการทำเรื่องโอนเล่มทะเบียน

การสมัครสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนแบบไม่โอนเล่มไม่ต้องไปทำเรื่องโอนรถที่กรมการขนส่งทางบก สามารถนำเล่มทะเบียนรถไปยื่นให้แก่แหล่งเงินกู้ที่สนใจได้เลย ช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำธุรกรรม


3.    ได้เงินเร็วทันใจ

การตัดขั้นตอนการโอนเล่มทะเบียนออกช่วยประหยัดเวลาในการดำเนินเรื่องขอสินเชื่อ ทำให้การขอสินเชื่อจำนำรถประเภทนี้ทราบผลอนุมัติเร็ว และได้รับเงินก้อนไวกว่าด้วย

สินเชื่อรถแลกเงินทั้งแบบโอนเล่มและไม่โอนเล่มมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน โดยแบบโอนเล่มจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินก้อนใหญ่และรอเงินได้ ขณะที่แบบไม่โอนเล่มจะเน้นความสะดวกและตอบโจทย์คนหาเงินด่วนมากกว่า ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อทะเบียนรถจึงควรเลือกวิธีที่เหมาะกับความต้องการของตนเองมากที่สุด


ลักษณะของรถที่สามารถนำมาแลกเงินได้

สินเชื่อรถแลกเงินจะมีการกำหนดคุณสมบัติของรถเอาไว้ด้วย

การขอสินเชื่อรถแลกเงินจะมีหลักทรัพย์ที่นำมาเป็นประกันก็คือ “เล่มทะเบียนรถ” ทางแหล่งเงินกู้ที่ให้บริการจึงต้องกำหนดคุณสมบัติของรถที่สามารถยื่นขอสินเชื่อทะเบียนรถได้ ส่วนมากมักจะระบุคุณสมบัติเหล่านี้เอาไว้

    ระยะเวลาการครอบครองรถ

แหล่งเงินกู้บางแห่งระบุระยะเวลาในการครอบครองรถเอาไว้ด้วย เช่น ระบุว่าผู้ขอสินเชื่อต้องครอบครองรถมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 วัน หรือ 6 เดือนแล้วแต่แหล่งเงินกู้จะเป็นผู้กำหนด โดยแหล่งเงินกู้จะตรวจสอบจากระยะเวลาการครอบครองรถที่ระบุไว้ในเล่มทะเบียนรถ เพื่อความมั่นใจว่ารถคันนี้เป็นของผู้ขอสินเชื่อโดยสมบูรณ์มาแล้วไม่ต่ำกว่าระยะเวลาที่กำหนด

    อายุการใช้งานของรถ

รถเก่าสามารถขอสินเชื่อทะเบียนรถได้ แต่ต้องมีอายุการใช้งานที่เข้ากับเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนมากมักกำหนดให้รถเก่าที่อายุไม่เกิน 20 ปีเท่านั้น บางแหล่งเงินกู้อาจจะกำหนดอายุรถเก่าไม่เกิน 15 ปี และมาพร้อมเงื่อนไขการตรวจสภาพรถประกอบด้วย ก่อนขอสินเชื่อรถแลกเงินจึงควรสอบถามรายละเอียดเรื่องอายุของรถด้วย

    หลักฐานเกี่ยวกับรถครบถ้วน

การขอสินเชื่อรถแลกเงินให้ผ่านต้องมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับรถครบถ้วนตามที่สถาบันทางการเงิน หรือแหล่งเงินกู้กำหนด หลักฐานที่สำคัญคือเล่มทะเบียนรถทั้งฉบับจริงและสำเนา รวมถึงหลักฐานการปิดยอดบัญชีไฟแนนซ์นั่นเอง

    เป็นเจ้าของรถโดยสมบูรณ์

การเป็นเจ้าของรถโดยสมบูรณ์ไม่ได้หมายถึงเพียงการมีรถปลอดภาระหนี้สินเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการมีชื่อเป็นเจ้าของรถเอง ไม่อนุญาตให้นำรถที่เป็นชื่อผู้อื่นมาขอสินเชื่อทะเบียนรถโดยเด็ดขาด แม้จะสนิทสนมหรือมีความสัมพันธ์ฉันท์สามี ภรรยา หรือเครือญาติก็ตาม เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถมาขอสินเชื่อ และการแอบอ้างโดยเจ้าของรถไม่ยินยอม

    คุณสมบัติอื่น ๆ เกี่ยวกับรถ

การตรวจสอบคุณสมบัติรถจะเน้นรถที่ยังคงสภาพคล้ายเดิม เพราะบางครั้งมีการนำรถไปแต่งจนสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก รถแต่งเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะไม่ผ่านการอนุมัติ เพราะคุณสมบัติไม่ตรงตามกำหนด ผู้ที่รักในการแต่งรถจึงควรแต่งรถอย่างพอดี และอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

    รถปลอดภาระเท่านั้น

การขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถประเภทนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าต้องเป็นรถปลอดภาระเท่านั้น เพราะรถที่ยังไม่ปลอดภาระกรรมสิทธิ์ในรถยังคงไม่เป็นของผู้ขอสินเชื่อโดยสมบูรณ์ รถคันดังกล่าวจึงไม่สามารถนำมาเป็นประกันในการขอสินเชื่อได้ ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อจึงต้องทำให้รถปลอดภาระก่อนขอสินเชื่อ

คุณสมบัติเหล่านี้เป็นเพียงเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับรถเท่านั้น ในการขอสมัครผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทนี้ยังมีการกำหนดคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น คุณสมบัติของผู้กู้ และรายได้ประกอบด้วย ก่อนขอสินเชื่อควรศึกษาคุณสมบัติที่แหล่งเงินกู้ต้องการให้เข้าใจ เพื่อให้การขอสินเชื่อราบรื่นและผ่านการอนุมัติโดยง่าย

ความสำคัญของการมีรถปลอดภาระ

รถปลอดภาระคือรถที่ไม่มีภาระหนี้สิน สามารถนำมาขอสินเชื่อรถแลกเงินได้

รถปลอดภาระ หมายถึง รถที่ไม่มีภาระหนี้สินกับสถาบันทางการเงิน หรือแหล่งเงินกู้อื่น ๆ คนส่วนมากมักจะมีภาระของรถที่เกี่ยวเนื่องกับการขอสินเชื่อเช่าซื้อรถ และการรีไฟแนนซ์ที่มักเป็นอุปสรรคในการขอสินเชื่อรถแลกเงิน ลักษณะของสินเชื่อเช่าซื้อรถและการรีไฟแนนซ์มีดังนี้

    สินเชื่อเช่าซื้อรถ

สินเชื่อเช่าซื้อรถเป็นสินเชื่อที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อรถ แต่ไม่มีเงินก้อน การขอสินเชื่อเช่าซื้อรถมักจะให้บริการโดยสถาบันทางการเงิน โดยผู้ซื้อจะวางเงินดาวน์รถจำนวนหนึ่ง แล้วผ่อนชำระค่างวดรถที่เหลือรวมกับดอกเบี้ยเป็นรายเดือนกับสถาบันทางการเงิน เมื่อผ่อนชำระครบแล้ว รถถึงกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อ

    การรีไฟแนนซ์รถ

การรีไฟแนนซ์รถเป็นทางเลือกของคนที่ยังผ่อนค่างวดรถอยู่ การรีไฟแนนซ์จะให้วงเงินก้อนหนึ่งสำหรับปิดหนี้รถยอดเดิม แล้วเริ่มต้นผ่อนใหม่กับสถาบันทางการเงินที่รับรีไฟแนนซ์ ผู้กู้สามารถเลือกรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิมที่กู้สินเชื่อรถหรือจัดไฟแนนซ์ด้วย หรือรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินใหม่ก็ได้ การรีไฟแนนซ์ไม่ได้ทำให้รถหมดภาระ เพราะผู้กู้ยังต้องชำระค่างวดรถกับสถาบันการเงินที่ขอรีไฟแนนซ์แทน แต่มีข้อดีที่ค่างวดมีการปรับลดลง และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระให้นานขึ้น เมื่อผ่อนครบถึงจะได้เป็นเจ้าของรถโดยสมบูรณ์

การที่รถยังคงติดสินเชื่อเช่าซื้อรถ และสินเชื่อรีไฟแนนซ์อยู่ทำให้รถเป็นรถมีภาระ ซึ่งไม่เข้าคุณสมบัติของการขอสินเชื่อรถแลกเงินที่ระบุไว้ชัดเจนว่าต้องเป็นรถปลอดภาระเท่านั้น ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการนำรถมาเปลี่ยนเป็นเงินก้อน แต่รถยังคงมีภาระติดพันอยู่จึงไม่สามารถทำได้

14
อาหารสุขภาพ ช่วยกระตุ้นการย่อย ลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ

การย่อยอาหารที่ดีเป็นรากฐานของสุขภาพที่ดี เพราะระบบย่อยอาหารที่ดีจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกำจัดของเสีย และช่วยรักษาระดับพลังงานที่เหมาะสมให้กับร่างกาย การย่อยอาหารที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายตัว ท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาจเกิดปัญหากับระบบทางเดินอาหารต่างๆ


เราสามารถบำรุงระบบทางเดินอาหารได้ด้วยการรับประทานอาหารที่หลากหลาย ซึ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพเหล่านี้ยังสามารถช่วยปรับปรุงการย่อยอาหารและบำรุงสุขภาพของลำไส้ให้ดีขึ้นได้ด้วย

6 อาหารช่วยกระตุ้นการย่อย

1. อาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์

ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารช่วยกระตุ้นการย่อย ระบบย่อยอาหาร อาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์

     ไฟเบอร์เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้เกิดย่อยอาหารที่ดี ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูก และรักษาจุลินทรีย์ในลำไส้ให้แข็งแรง ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำต่างก็สำคัญต่อระบบย่อยอาหาร โดยอาหารที่มีเส้นใยละลายน้ำ เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่ว และผลไม้รสเปรี้ยว ในขณะที่เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำนั้นมีมากในผัก เมล็ดธัญพืช และรำข้าว


2. โยเกิร์ต

     โยเกิร์ตและอาหารที่มีโปรไบโอติกสูงอื่นๆ จำเป็นต่อการช่วยรักษาลำไส้ให้แข็งแรง โปรไบโอติกเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ซึ่งช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหารโดยการปรับสมดุลของไมโครไบโอมในลำไส้และช่วยในการสลายอาหาร ทั้งโยเกิร์ต คีเฟอร์ กะหล่ำปลีดอง กิมจิ และอาหารหมักอื่นๆ ก็ล้วนเป็นแหล่งโปรไบโอติกที่ดี สามารถช่วยบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) ลดการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน


3. ขิง

     ขิงมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพซึ่งสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อทางเดินอาหาร ลดการอักเสบ และบรรเทาอาการคลื่นไส้ ขิงสามารถบริโภคได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ชาขิง อาหารที่มีส่วนผสมของขิง หรือแม้แต่อาหารเสริม


4. สะระแหน่

     สะระแหน่และเปปเปอร์มินท์เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาอาการไม่สบายท้องและทางเดินอาหารด้วยวิธีธรรมชาติ พืชชนิดนี้มีคุณสมบัติในการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด และท้องเฟ้อ ชาเปปเปอร์มินต์หรือการรับประทานใบสดสามารถบรรเทาอาการท้องเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ


5. มะละกอ

     มะละกอขึ้นชื่อในเรื่องเอนไซม์ย่อยอาหาร เช่น ปาเปน ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้สามารถช่วยสลายโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น การบริโภคมะละกอสดหรือการดื่มน้ำมะละกอสามารถช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและลดอาการอาหารไม่ย่อยได้


6. น้ำ

     การให้ความชุ่มชื้นกับร่างกายอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยย่อยอาหารได้ดี ซึ่งน้ำสามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายได้ การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้ท้องผูกและเกิดปัญหาต่อกระบวนการย่อยอาหารได้ ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน

15
ทาวน์โฮม ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต (Supalai Primo Monument Phuket)
เริ่มต้น 2.89 ลบ.

ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต (Supalai Primo Monument Phuket)
ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต บ้านแฝด/ทาวน์โฮม ภายใต้แนวคิด "Up your game" บนทำเลในจังหวัดภูเก็ต ใกล้ Robinson และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ           ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต (Supalai Primo Monument Phuket)
 เจ้าของโครงการ     ศุภาลัย
 แบรนด์ย่อย          ศุภาลัย พรีโม่
 ราคา                 เริ่มต้น 2.89 ลบ.

 ประเภทบ้าน        บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล       บ้านลักษณะทำเลอื่น
 พื้นที่โครงการ      17 ไร่
 จำนวนบ้าน         158 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด   1 แบบ
  เนื้อที่บ้าน          ตั้งแต่ 19 ถึง 40 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย        ตั้งแต่ 119 ถึง 149 ตร.ม.
 จำนวนชั้น           2 ชั้น
 หน้ากว้าง          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน     3 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ     2 คัน
 สาธารณูปโภค     รปภ., CCTV, อื่นๆ (ติดตั้ง Solar Rooftop (เฉพาะบ้านแฝด), เข้า-ออกอัตโนมัติด้วยระบบ Bluetooth)

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน          ถลาง
 ที่ตั้ง         ถนนเทพกระษัตรี ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83110

 ขนส่งสาธารณะ               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. ไทวัสดุ 400 ม.
2. โรงเรียนขจรเกียรติถลาง 850 ม.
3. โรบินสันไลฟ์สไตล์ ถลาง 1.2 กม.
4. อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร 1.2 กม.
5. โลตัส ถลาง 4.8 กม.
6. แม็คโคร ถลาง 4.8 กม.
7. Porto de Phuket 7.5 กม.

หน้า: [1] 2 3 ... 14