ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีปฏิบัติการดูแลผู้ป่วย ให้อาหารทางสายยาง  (อ่าน 3 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 634
    • ดูรายละเอียด
วิธีปฏิบัติการดูแลผู้ป่วย ให้อาหารทางสายยาง
« เมื่อ: วันที่ 8 ธันวาคม 2025, 14:37:55 น. »
วิธีปฏิบัติการดูแลผู้ป่วย ให้อาหารทางสายยาง

การให้อาหารทางสายยาง (Tube Feeding) เป็นขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยที่สำคัญอย่างยิ่ง ต้องอาศัยความระมัดระวัง ความสะอาด และการปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การสำลัก หรือการติดเชื้อ

ข้อมูลนี้เป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทั่วไป กรุณาปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลผู้ดูแลผู้ป่วยโดยตรง เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาวะของผู้ป่วยแต่ละราย

📋 วิธีปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยให้อาหารทางสายยาง

1. การเตรียมตัวก่อนให้อาหาร (Preparation)

ล้างมือให้สะอาด: ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างถูกวิธี

เตรียมอาหาร:

เตรียมอาหารเหลวสำเร็จรูป หรืออาหารปั่นตามที่แพทย์สั่ง

ตรวจสอบ วันหมดอายุ ของอาหาร และนำอาหารมาวางไว้ที่ อุณหภูมิห้อง (ไม่ควรเย็นหรือร้อนเกินไป)

จัดท่าผู้ป่วย: จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่า ศีรษะสูง 30–45 องศา (Semi-Fowler’s Position) หรือนั่งเก้าอี้ ห้ามให้อาหารในขณะที่ผู้ป่วยนอนราบ เพราะเสี่ยงต่อการสำลักสูงมาก

เตรียมอุปกรณ์: กระบอกให้อาหาร (Syringe), น้ำสะอาด (สำหรับล้างสาย), ผ้าสะอาด, และภาชนะสำหรับทิ้งของเสีย


2. การตรวจสอบสายยางก่อนให้อาหาร (Crucial Tube Check)

ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าสายยางยังอยู่ในกระเพาะอาหาร และไม่มีอาหารค้างมากเกินไป:

ตรวจสอบตำแหน่งสาย (Placement):

วิธีหลัก (ตามคำแนะนำพยาบาล): ใช้กระบอกดูดอากาศใส่สายยาง แล้วใช้ Stethoscope ฟังเสียงที่บริเวณเหนือลิ้นปี่ หากได้ยินเสียงปุด ๆ แสดงว่าสายยังอยู่ในกระเพาะอาหาร (หรือใช้วิธีอื่นตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ)

ตรวจสอบความยาว: ดูว่าความยาวของสายที่ทำเครื่องหมายไว้ตรงกับที่บันทึกไว้หรือไม่

วัดปริมาณอาหารค้าง (Residual Volume):

ค่อย ๆ ดูดของเหลวในกระเพาะอาหารออกมา เพื่อประเมินปริมาณอาหารที่ยังค้างอยู่

หากปริมาณของเหลวค้างอยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์กำหนด (เช่น น้อยกว่า 100-150 มล. หรือตามคำสั่งแพทย์): ให้ใส่ของเหลวคืนกลับไป (เพื่อไม่ให้เสียสมดุลเกลือแร่) แล้วให้อาหารมื้อต่อไปได้

หากปริมาณค้างเกินกำหนด: ห้ามให้อาหารมื้อนั้น ให้ปรึกษาพยาบาลหรือแพทย์ทันที


3. ขั้นตอนการให้อาหาร (Feeding Procedure)

ล้างสายก่อน: ใช้น้ำสะอาดเล็กน้อย (ประมาณ 10-20 มล. หรือตามคำแนะนำ) ฉีดเข้าไปในสายยางเพื่อทำความสะอาดและตรวจสอบว่าสายไม่ตัน

ให้อาหาร:

เทอาหารใส่กระบอกให้อาหาร โดยไม่ต้องดันลูกสูบกระบอก (Gravity Feeding) ปล่อยให้อาหารไหลลงไปช้า ๆ ตามแรงโน้มถ่วง โดยยกกระบอกให้อาหารให้สูงประมาณ 1 ฟุตเหนือศีรษะผู้ป่วย

ระยะเวลา: การให้อาหาร 1 มื้อควรใช้เวลาอย่างน้อย 15–20 นาที เพื่อป้องกันอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือการสำลัก

ล้างสายหลังให้เสร็จ (Flushing): เมื่ออาหารใกล้หมด ให้เท น้ำสะอาดตามลงไปทันที (ประมาณ 30–50 มล. หรือตามคำแนะนำ) เพื่อล้างทำความสะอาดสายยาง ไม่ให้เกิดการอุดตัน


4. การดูแลหลังให้อาหาร (Post-Feeding Care)

คงท่าศีรษะสูง: ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าศีรษะสูงต่อไปอีก อย่างน้อย 30–60 นาที เพื่อป้องกันอาหารไหลย้อนกลับและสำลัก

ทำความสะอาดสาย: ปิดฝาสายยางให้เรียบร้อย และดูแลรอบ ๆ สายยางที่ใบหน้าให้สะอาดเสมอ


5. การสังเกตและเฝ้าระวัง (Monitoring)

สังเกตอาการสำลัก: หากผู้ป่วยไอ, หายใจมีเสียงดัง, หรือมีสีผิวเขียวคล้ำ ให้หยุดให้อาหารทันทีและปรึกษาแพทย์

ดูแลผิวหนัง: ตรวจสอบรอบ ๆ รูที่ใส่สายยาง (ถ้าเป็นสาย PEG) หรือบริเวณจมูก/แก้ม (ถ้าเป็นสาย NG) ว่ามีอาการอักเสบ หรือผิวหนังถลอกหรือไม่

ข้อควรเน้นย้ำ: การดูแลสายยางต้องทำด้วยความระมัดระวังและสะอาดที่สุด และปฏิบัติตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ